วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560

เมืองชองซอน ( Jeongseon )




                                       เมืองชองซอน ( Jeongseon )


                       


         ส่วนตัวดิฉันคิดว่า สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเเละมีส่วนในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวยังดินเเดนเเห่งนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ เกาหลี ประเทศที่มีความสวยงามเเละทันสมัยอย่างมากในเอเซีย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเเเดนกิมจิเเห่งนี้ส่วนใหญ่เเล้วจะมีเเต่ความประทับใจอย่างเเน่นอน เเละสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีอย่าง เมืองชองซอน ก็ถือว่ามีความสวยงามเเละน่าสนใจจนมีเเต่คนเเนะนำให้เรามาเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งนี้กันอย่างมากมาย เรียกว่าหากมาเที่ยวเกาหลีเเล้วอย่าลืมหาเวลามาเที่ยวยังสถานที่เเห่งนี้ดูกันบ้างนะคะ

         Jeongseon นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจหลายจุดอย่างมากเลยทีเดียว ทำให้เป็นที่สนใจเเละนิยมของนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่มาเยือนยังที่นี่รวมทั้งบรรดานักท่องเที่ยวจากเเดนสยามที่มักจะไม่พลาดเเวะเวียนมาเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติเเละสิ่งก่อสร้างที่มีความสวยงามกันอยู่อย่างเสมอเลยทีเดียว ทำให้ที่นี่เป็นอีกเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความคึกคักเเละเหมาะสมกับการมาเที่ยวซักครั้งเมื่อคุณมาเยือนเกาหลี

       เมืองทางตอนเหนือในหุบเขาอย่าง เมืองชองซอน นั้นตั้งอยู่ในเขตกางวอน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 2 ชั่วโมง นับว่าเป็นเมืองที่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นเกาหลีอยู่อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว เเละเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยวเเนวเเบ็คเเพ็คเกอร์อย่างมาก โดยความโด่งดังของเมืองเเห่งนี้นั้นมาจากการที่จะมีตลาด 5 วัน ซึ่งจะมีการนำเอาสมุนไพรต่างๆ ของเกาหลีออกมาจำหน่ายให้ทั้งชาวเกาหลีเเละบรรดานักท่องเที่ยวในราคาที่เย้ายวนอย่างมากเลยก็ว่าได้

       Jeongseon นั้นมีมนต์เสน่ห์ที่ต้องตาต้องใจเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยคุณสามารถมาพักเเละซึมซับบรรยากาศของเมืองเก่าๆในเกาหลีเเบบเมืองนี้ รวมทั้งมีเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดชิมซักครั้งอย่าง มอกโกลี ซึ่งก็คือไวน์เกาหลี นั่นเอง รวมทั้งต้องไม่พลาดลองชิมเมนูอย่างบะหมี่ โกโดงชิกิ เพียงเท่านี้การมาเที่ยวยังเมืองเเห่งนี้ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมเเละประทับใจเเก่ผู้ที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวยังเมืองเเห่งนี้ดูซักครั้ง


  ที่มา: http://www.korea108.com/2016/02/jeongseon.html

เมืองซังวอน ( Changwon )




                                 เมืองซังวอน ( Changwon )



                            
                       


       เมืองซังวอนนะคะจะเรียกได้ว่า เป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและผู้ที่ชอบชมนกนานาพันธุ์ เพราะมันเป็นสถานที่ที่เหมาะมากกับการชมนก หลายพัน สายพันธุ์บินไปมาจนคุณอาจจะตาลายได้นอกจากนั้นใกล้ๆกับเมือง Changwon ยังมีโชว์ Musical Fountain ที่ Yongji Lake ซึ่งน่าไปเยี่ยมชมพอๆกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Gyeongnamเมือง Changwon มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีความร้อนมาจากภูเขาไฟ ตั้งอยู่หลายจุดรอบเมือง ซึ่งหากคุณอยากพักผ่อนด้วยการแช่น้ำอุ่นสบายๆ คุณสามารถหาบ่อน้ำพุร้อนได้ตามโรงแรมและสปารอบๆตัวเมือง Changwon อีกด้วยค่ะ

      เมืองซังวอน นั้นมีความโดดเด่นเเละเป็นเมืองทางใต้อีกเเห่งของเกาหลี โดยเป็นมีที่มีธรรมชาติที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เเละได้ชื่อว่าเป็นเมืองเเห่งการดูนกเลยก็ว่าได้ เพราะบริเวณที่ตั้งของเมืองนี้นั้นจะเป็นจุดที่นกสายพันธุ์ต่างๆ จะอพยพมาประจำปี โดยจะมีการจัดเทศกาลในการดูนกขึ้นเป็นประจำทุกปีเลยทีเดียว โดยใช้เวลาในการจัดงานประมาณ 3 วัน โดยสถานที่ที่มีความเหมาะอย่างมากในการดูนกก็คือที่ สวน Junam Wetlands ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดูนกเป็นอย่างมาก เเละเป็นจุดไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาดเเวะมาชมความสวยงามของนกพันธุ์ต่างๆ

     ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอีกเเห่งของเมือง Changwon ก็คือที่ Yongji Lake ซึ่งจะมีการจัดเเสดง Musical Fountain โดยมีผลงานศิลปะมากมายให้คุณได้มาเที่ยวชมกันอีกด้วย นอกจากนี้เเล้วที่เมืองเเห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนที่จะเกิดมาจากภูเขาไฟ ซึ่งตั้งอยู่รอบๆ เมืองเเห่งนี้ โดยคุณสามารถเข้าพักโรงเเรมเเถวนี้ที่จะมีบ่อน้ำพุคอยเปิดให้บริการอยู่มากมายหลายเเห่งด้วยกัน นับว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดของการมาท่องเที่ยวเมืองเเห่งนี้


 ที่มา: http://www.korea108.com/2016/02/changwon.html



เมืองยอซู Yeosu




                                    เมืองยอซู ( Yeosu )

                                           
                           
            
            
      

      สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่เดียวนะคะ ที่นิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังดินเเดนที่เเสนจะสวยงามอย่าง เกาหลี เพราะที่นี่นั้นมีมนต์เสน่ห์ที่น่าสนใจเเละเป็นอีกหนึ่งเเหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้าให้เลือกซื้อหามากมายในราคาที่ไม่เเพงเเต่อย่างใด รวมทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวก็มีหลากหลายเเห่งที่มีความน่าสนใจอย่างที่ เมืองยอซู ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลีเเล้วไม่ควรจะพลาดมาเที่ยวชมความสวยสดงดงามของที่นี่ดูซักครั้ง


      เมืองอย่าง Yeosu นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจหลายจุดอย่างมากเลยทีเดียว ทำให้เป็นที่สนใจเเละนิยมของนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่มาเยือนยังที่นี่รวมทั้งบรรดานักท่องเที่ยวจากเเดนสยามที่มักจะไม่พลาดเเวะเวียนมาเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติเเละสิ่งก่อสร้างที่มีความสวยงามกันอยู่อย่างเสมอเลยทีเดียว ทำให้ที่นี่เป็นอีกเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความคึกคักเเละเหมาะสมกับการมาเที่ยวซักครั้งเมื่อคุณมาเยือนเกาหลี
     
     ต้องบอกเลยว่า เมืองยอซู นั้นในอดีตไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเเต่อย่างใด เพียงเเต่เป็นเมืองทางตอนใต้ของเกาหลีที่เคยมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของเกาหลีอยู่เหมือนกัน ก่อนที่ในปี ค.ศ.2013 เมืองเเห่งนี้จะได้รับการคัดเลือกให้มีการจัดงาน World Expo 2013 ทำให้กลายเป็นเมืองที่มีการพัฒนาเเบบก้าวกระโดด เเละมีนักท่องเที่ยวรู้จักเพิ่มมากขึ้น เเละเมื่อรวมกับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมเเล้วก็นับว่าเป็นอีกเมืองที่มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
            

พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ ซีไลฟ์( SEA LIFE Aquarium )



                                     พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ ซีไลฟ์
                                    ( SEA LIFE Aquarium )


                   

           
        ตามมาเที่ยวปูซานกันต่อ ที่หาดแฮอุนแดยังคงมีที่ให้เที่ยวอีกหนึ่งที่ นั่นก็คือ ( Busan Aquarium) ค่ะซึ่งสถานที่แห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องท่องเที่ยวสำหรับวันหยุดพักผ่อนหย่อนใจกันนไปแล้วเนี้ยนะคะสถานที่เเห่งนี้แหล่งรวมความรู้เกี่ยวกับปลาน้ำเค็มต่างออีกด้วยละค่ะ สถานที่แห่งนี้ก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำปูซานนั่นเองค่ะ

         พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ ซีไลฟ์ (SEA LIFE Busan Aquarium, SEA LIFE) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองปูซาน และของประเทศเกาหลี มีสัตว์น้ำที่นำมาจัดแสดงมากกว่า 35,000 ชนิด เช่น ปลา สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มีการออกแบบอาคารอย่างทันสมัย อยู่ใต้ดินลงไป 3 ชั้น รวมทั้งส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง โดยชั้นแรกจะเป็นร้านขายของและขายอาหาร ขนม เครื่องดิื่มต่างๆ ชั้นที่สองจะเป็นห้องจัดแสดงหลากหลายแบบ และชั้นใต้ดินที่ 3 จะเป็นอุโมงค์ใต้น้ำขนาดใหญ่ เป็นทางยาว 80 เมตร ออกแบบมาให้เหมือนกับเรากำลังเดินอยู่ที่พื้นในมหาสมุทร โดยจะมีสัตว์น้ำมากมายว่ายอยู่ที่ด้านบน สร้างประสบการณ์ทีน่าตื่นตาตื่นใจจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Top Hit ของเมืองเลยทีเดียว


   ที่มา: https://www.chilloutkorea.com/sea-life-busan-aquarium/

สวนยงดูซาน (Yongdusan Park)


                                  สวนยงดูซาน (Yongdusan Park)

                             

                               

     
             ค่ะสำหรับ สวนยงดูซัน สวนสาธารณะเล็กๆตั้งอยู่บนยอดเขายงดซัน (Yongdusan Mount) ใกล้กับสถานเริงรมย์ยามราตรี มีพูซานทาวเวอร์ (Busan Tower) ตั้งโดเด่นด้วยความสูง 69 เมตร ที่ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพูซานได้อย่างชัดเจน ค่ะ


          อุทยานยงดูซาน (Yongdusan Park) ตั้งอยู่ในตัวเมืองปูซาน และเป็นหนึ่งใน 3 ภูเขาที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ที่มาของชื่อ “ยงดูซาน (Yongdusan)” นั้น มาจากลักษณะรูปร่างของภูเขาที่เหมือนกับหัวมังกร ซึ่งหันหน้าเข้าสู่ฝั่งทะเล เพื่อป้องกันและกำจัดศัตรูที่มาจากทะเลนั่นเอง ในระหว่างสงครามเกาหลี ผู้อพยพพากันหนีขึ้นมาสร้างบ้านเรือนอาศัยกันบนภูเขา และเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้ง ทำให้ต้นไม้บนภูเขาถูกไฟเผาทำลาย จึงมีความพยายามในการฟื้นฟูปลูกต้นไม้ขึ้นมาใหม่ และจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะขึ้นมา
        บริเวณของอุททยานมีพื้นที่ประมาณ 69,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยสวนสวยที่มีพรรณไม้กว่า 70 สายพันธุ์, ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น, อนุสาวรีย์ Cheokhwabi, Chunghontap อาคารอนุสรณ์เพื่อลำรึกถึงเหยื่อในสงครามเกาหลี, อนุสาวรีย์ของนักศึกษาที่ต่อต้านรัฐบาลในเหตุการณ์ปฏิวัติ 4.19, รูปปั้นของนายพล Lee Susin ผู้บัญชาการทหารที่ดีที่สุดในสมัยราชวงศ์โชซอน (1392-1910) และพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรี

         นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของปูซานทาวเวอร์ (Busan Tower) ซึ่งเป็นสถานที่นิยมอีกแห่งหนึ่งของปูซาน สำหรับชั้นแรกของหอคอย เป็นบริเวณขายของที่ระลึก และงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมของเกาหลี เช่น มาสก์, พวงกุญแจ, กระเป๋า, เครื่องปั้นดินเผา, ตุ๊กตา และอื่น ส่วนด้านบนสุดของหอคอยเป็นจุดสำหรับชมวิวทิวทัศน์ของเมืองปูซาน ที่สวยงามทั้งในยามกลางวัน และยามค่ำคืน

ที่ตั้ง Busan-si Jung-gu Gwangbok-dong 2-ga


 ที่มา: http://www.jointtravel.com/travel-information-gallery/busan-tower-yongdusan-park.html

วัดเบียวเมียวซา ( Beomeosa Temple Stay )



                      วัดเบียวเมียวซา ( Beomeosa Temple Stay )

                         


            เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองปูซาน คาดว่ามีอายุประมาณ 1,300 ปี ค่ะ ซึ่งสร้างโดยพระสงฆ์ผู้อุทิศตนให้กับศาสนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้คนแสวงหาความสงบที่แท้จริง และเรียนรู้ที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่น ซึ่งในปัจจุบันยังมีการจัดปฏิบัติธรรมในรูปแบบโปรแกรมต่าง ๆค่ะ


              วัดเบียวเมียวซา( Beomeosa Temple Stay ) เป็นวัดเก่าแก่อยู่ที่เชิงเขาของภูเขากอมจองซาน (Geumjeongsan) ใกล้กับใจกลางเมืองปูซาน เป็นหนึ่งใน 3 วัดหลักของเกาหลีใต้ ทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นสถานีฝึกฝนการปฏิบัติธรรมแบบพระ หรือที่เรียกกว่า Temple Stay ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบฝึกฝนและแบบสบายๆ แบบแรกผู้เข้าร่วมจะได้ประสบการณ์คล้ายกับการเป็นพระในการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การกิน และการสวนมนต์จนถึงการทำสมาธิแบบเซน ถ้าเป็นแบบสบายๆจะเป็นการดื่มชาแล้วสนทนากับพระหรือการฝึกทำสมาธิแบบเซนสั้นๆค่ะ
            

ตลาดปลาจากัลชี ( Jagalchi Fish Market )


                               
                                       ตลาดปลาจากัลชี 
                                 ( Jagalchi Fish Market )


                           

          ในปัจจุบันมีการกล่าวกันว่า Jagalchi Fish Market ในเมืองปูซานนั้นเทียบเท่าได้กับตลาดปลาซึกิจิ ในโตเกียวกันเลยทีเดียวค่ะ ทั้งตลาดด้านนอกที่เต็มไปด้วยร้านค้าปลามากมาย และในส่วนของตัวตลาดที่มีระบบระเบียบได้มาตรฐานเป็นอย่างมาก 


         ตลาดปลาจากัลชี(Jagalchi Fish Market))เป็นตลาดปลาและอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี และยังเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของเมืองปูซานอีกด้วย โดยมีคนขายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เรียกกันว่า “Jagalchi Ajumma” ที่แปลว่าได้ประมาณว่าคุณป้าจากัลชี(แปลตรงตัวคือ ผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งงานแล้ว)

         ที่ตลาดปลาจากัลชียังเป็นสถานที่สำหรับลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ เช่น เนื้อปลา หอย กุ้ง ปู หรือเนื้อปลาวาฬก็มีขาย และภายในตลาดก็จะมีร้านอาหารทะเลสดๆขายให้ลองชิมกันด้วย นอกจากนี้ ยังจะได้เห็นวิถีชีวิตจริงๆของผู้ในเมืองปูซานด้วย


   
      ที่มา: https://www.chilloutkorea.com/jagalchi-fish-market/

Shinsegae Centum City


Shinsegae Centum City



            นอกจากตลาดเมียงดงแล้ว เกาหลีก็ยังมีแหล่งช้อปปิ้งศูนย์ใหญ่ห้างดังของประเทศเกาหลีเพราะห้างแห่งนี้เป็นสถานที่รวมของทันสมัย และเทคโนโลยีต่างที่ใช้ในปัจจุบัน เพราะฉนั้นหากใครที่เป็นขาช้อปห้างแห่งนี้คือพลาดไม่ได้เพราะว่าคุณจะได้ช้อปจนเงินในกระเป๋าแฟบไปเลยก็อาจเป็นได้ค่ะ

             
               ห้างสรรพสินค้า Shinsegae สาขา Centum City ได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นห้างในเครือของ Shinsegae ที่เป็นต้นตำรับของห้างที่เกาหลี ภายในห้าง Shinsegae Centum City จะเป็นเหมือนเมืองเลย มีการออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่สวยงาม มีทุกสิ่งอย่างให้เลือกซื้อเลือกหากัน ตั้งแต่สินค้าความงาม แฟชั่น เทคโนโลยี แบรนด์หรูๆครบทุกแบรนด์ ร้านหนังสือ Kyobo Book Store ที่เป็นร้านจำหน่ายหนังสือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้เลย ไปจนถึงลานสเก็ตน้ำแข็ง สนามไดร์กอล์ฟ สปา สวนุสนุก สวนสัตว์ คาราโอเกะ โรงภาพยนตร์ และสวนอาหารจากทั่วทุกมุมโลก เรียกได้ว่ามีทุกอย่างเสร็จสรรพเลยทีเดียว

           เป็นห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร ที่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ ที่สุดในโลก Shinsegae Centum City ตั้งอยู่ในในอาคารสูง 14 ชั้น จำหน่ายสินค้าแบรนดัง อาหารชั้นเลิศ รวมทั้งสถานบันเทิงและการพักผ่อนที่เรียกได้ว่าครบทุกมิติ ภายในอาคารมีพื้นที่จำหน่ายสินค้าถึง 9 ชั้น ไม่ว่าคุณต้องการสิ่งใด ก็หาได้จากห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ไม่ว่าจะจับจ่ายซื้อสินค้าแฟชั่นแบรนดังอย่าง Gucci, Prada และ Chanel ชม Kyobo Book Store ร้านจำหน่ายหนังสือขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ หรือไปเลือกชิมอาหารจากทั่วทุกมุมโลกที่ร้านอาหารชั้นใต้ดินของห้างศูนย์การค้าแห่งนี้มีทั้งลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ซึ่งรองรับนักเสก็ตได้ถึง 500 คน และลานไดรฟ์กอล์ฟในร่ม ที่มีลักษณะเหมือนคลังสินค้าขนาดใหญ่อลังการงานสร้างสุดๆ. นอกจากนั้นยังมีสวนบนดาดฟ้าที่เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสองผั่งแม่น้ำ Nakdong และนักท่องเที่ยวยังสามารถแวะพักผ่อนที่ Shinsegae Centum City Spaland คลายความเหนื่อยล้ากับการทำสปาสไตล์เกาหลี Spaland มีคอร์สสปาให้เลือกถึง 22 แบบ และห้องซาวน่า 13 แบบ รวมทั้ง “Roman Sauna” ที่สร้างเลียนแบบอ่างอาบน้ำของชาวโรมันโบราณ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสปาที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเลยก็ว่าได้



นูริมารู เอเปค ( Nurimaru APEC House )


                                            นูริมารู เอเปค 
                                  ( Nurimaru APEC House )


                       

                ค่ะ สำหรับ Nurimaru APEC Houseคือจุดชมวิวที่น่าสนใจที่หาดแฮอุนแดค่ะ เป็นจุดที่ชมวิวที่สวยที่สุดอีกจุดนึงในปูซานด้วยบรรยากาศที่สดชื่นจึงทำให้จุดชมวิวแห่งนี้มีผู้คนเดินทางมาชมและมีนักเที่ยวมาเที่ยวแบบไม่ขาดสายค่ะ


              อาคารนูริมารู เอเปค (Nurimaru APEC House) เป็นอาคารรู้ทรงกลมดีไซน์แปลกที่ตั้งอยู่ริมทะเล สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการจัดงานประชุมผู้นำ APEC (APEC Summit) อยู่ที่เกาะดองแบกโซม (Dongbaekseom) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ที่ปัจจุบันเป็นอาคารอนุสรณ์ของการประชุมในครั้งนั้น และใช้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติในวาระต่างๆ รวมทั้งจัดแสดงผลงานที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมต่างๆของเกาหลี

             อาคารนูริมารู เอเปคนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ระเบียงชมวิวบริเวณชั้น 3 ซึ่งหันหน้าเป็นมุมกว้างออกไปทางทะเล ทำให้มองเห็นเกาะออยุคโด (Oryukdo) และสะพานควังกัน (Gwangan) ที่สวยงามได้อย่างชัดเจน อยู่ใกล้กับชายหาด ( Haeundae Beach )


Dadaepo Sunset Fountain of Dreams



                Dadaepo Sunset Fountain of Dreams’ Music Show



           ค่ะ สำหรับน้ำพุแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยบวิเวณรอบๆที่เต็มไปด้วยน้ำพุแล้วในยามค่ำคืนน้ำพุแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นหลายๆสีซึ้งมันสื่อให้เห็นถึงความงดงามตระการตามากๆเลยค่ะ


         น้ำพุแห่งความฝัน ดาแดโป (Dadaepo Sunset Fountain of Dream, )เป็นน้ำพุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ชายหาดดาแดโป(Dadaepo)ที่มีชื่อเสียงอีกหาดหนึ่งของเมืองปูซาน
         
         น้ำพุที่ดาแดโป เป็นน้ำพุที่มีเพลงบรรยเลงไปด้วยตามจังหวะน้ำพุ ที่พุ่งขึ้นไปสูงถึง 55 เมตร จนเป็นม่านน้ำแล้วฉายไฟไปที่น้ำพุให้เกิดเป็นภาพ เหมือนเป็นน้ำพุเต้นระบำเคล้าเสียงเพลง ซึ่งจะเปิดเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นแบบน้ำพุธรรมดาที่ไม่มีแสงสีเสียงจะเปิดตลอดทั้งปี

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

ศูนย์ภาพยนตร์ปูซาน(Busan Cinema Center)


   ศูนย์ภาพยนตร์ปูซาน
    (Busan Cinema Center)  
                           

                       

     
           สถานที่แห่งนี้ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งนะคะ ที่มีวัยรุ่นให้ความสนใจเพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากเพราะสถานที่เเห่งนี้เป็นศูนย์รวมการใช้เทคโนโลยีจึงเป็นที่สนใจแก่วัยรุ่นเป็นอย่างมากค่ะ

         ศูนย์ภาพยนตร์ปูซาน Busan Cinema Centerเป็นสถานที่จัดงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซานที่เป็นหนึ่งในงานที่ใหญ่และดังที่สุดงานหนึ่งของเกาหลีใต้ ทำให้อาคารรูปทรงแปลกประหลาด ท้าทายแรงโน้มถ่วงแห่งนี้กลายเป็นสัญญลักษณ์หนึ่งของงานนี้ด้วย
     ศูนย์ภาพยนตร์ปูซานประกอบไปด้วยอาคาร 3 อาคารคือ Cine Mountain ที่เป็นอาคารหลัก มีโรงภาพยนตร์ 3 โรงและโรงละคร 1 โรง, Biff Hill และ Double Cone ซึ่งที่นี่เป็นที่แรกในโลกที่มีการนำเอาโรงภาพยนตร์และโรงละครมารวมไว้ในอาคารเดียวกัน
   
        Cine Mountain หรืออาคารหลักของศูนย์ภาพยนตร์ปูซานในมุมมองทางด้านสถาปัตกรรมนั้น ได้ใช้แนวคิด deconstructivism เพื่อแสดงให้เห็น formative ของอาคารที่ต้องการนำเสนอ นั่นก็คือสายน้ำและภูเขา มีหลังคาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าสนามฟุตบอลเกือบ 3 เท่าตัว ติดตั้งด้วยหลอดไฟ LED 4 หมื่นกว่าดวงเพื่อเน้นขับรูปแบบของอาคารให้เด่นมากยิ่งขึ้นในตอนกลางคืนค่ะ

 
     ที่มา: www.chilloutkorea.com/busan-cinema-center/

หมู่บ้านวัฒนธรรม ปูซาน กัมชอน Busan Gamcheon Culture Village


                                          หมู่บ้านวัฒนธรรม ปูซาน กัมชอน
                              (Busan Gamcheon Culture Village) 
                                 
                           


        ในอีกมุมหนึ่งนะคะ นอกจากตึกระฟ้าในย่านเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้แล้ว ยังมีอาคารหมู่บ้านทาสีพาสเทล ที่แยกตัวออกมาจากเมืองแห่งความเจริญ ซึ่งบ้านเรือนแปลกตาเหล่านี้ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากศิลปะสมัยใหม่ ที่เติมเต็มเรื่องราวให้กับหมู่บ้านที่ชื่อว่า คัมชอน ในเนินเขาวงกตแห่งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้คนให้ไปเยือนมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

        หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน Gamcheon Culture Villageหรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า Taeguekdo Village ได้รับการขนานนามว่าเป็นซานโตรินีแห่งเกาหลี เป็นชุมชนซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตลาดชากัลชิของปูซานเพียง 30 นาทีเท่านั้น และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆน่าสนใจสำหรับคนที่แวะไปเที่ยวเมืองปูซาน.ถนนหนทางทีนี่ถูกตกแต่งด้วยภาพแนวกราฟฟิตี้ บ้านเรือนหลายหลังเปลี่ยนเป็นสตูดิโอและแกลลอรี่ แต่หลายหลังยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ ที่นี่โด่งดังจากการเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ Running Man รายการชื่อดังของเกาหลี ซึ่งมีทั้งตอนที่นางเอกสาวชเวจีอูเป็นแขกรับเชิญ รวมทั้งหนุ่มๆ 2PM ก็เคยมาถ่ายทำที่นี่เช่นกันค่ะ

  ที่มา: http://tamroyseries.blogspot.com/2014/06/gamcheon-culture-village-busan.html?m=1

ถนนซอมยอน (Seomyeon)

ถนนซอมยอน(Seomyeon)

                           

   
         เกาหลีถือเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมมาช็อปปิ้งเป็นอย่างมาก เพราะด้วยราคาที่ไม่แพงมากนักประกอบการเดินทางมาเที่ยวเกาหลีนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย ยิ่งทำให้ถูกใจขาช็อปเข้าไปใหญ่และสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวย่านช็อปปิ้งชื่อดังที่ร้อยทั้งร้อยคนที่มาเที่ยวเกาหลีจะต้องแวะเวียนมาละลายเงินวอนกันอย่างแน่นอน ก็คงจะหนีไม่พ้น ย่านซอเมียน ในปูซาน ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวช็อปปิ้งชื่อดังของเกาหลี ที่นิยมกันอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะจุดเด่นในเรื่องของสินค้าที่หลากหลายและราคาที่เร้าใจก็ถูกใจขาช็อปจากแดนสยามกันถ้วนหน้า
 
        ถนนซอมยอน 1 บอนกา(Seomyeon 1 Beonga)เป็นย่านวัยรุ่นทีเต็มไปด้วยร้านค้าเช่น เสื้อผ้า, เครื่องสำอางค์, ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ออกแนว street art ที่จะมีการแสดงเปิดหมวกให้ชมตลอดเส้นทางที่ยาวประมาณ 300 กว่าเมตร โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีคนเดินกันแน่นถนน
     ถนนซอมยอน 1 บอนกา ยังเป็นจุดจัดงานต่างๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่จะมีทั้งการแสดงเปิดหมวก การออกร้านขายของทำมือ และสินค้าทางด้านศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปูซานเลยทีเดียวค่ะ

สวนริมทะเล แทจองแด (Taejongdae Seaside Park)

 
                                      สวนริมทะเลแทจองแด
                               (Taejongdae Seaside Park)


        สวนแทจองแดมีขนาดใหญ่มากเลยค่ะ และมีจุดน่าสนใจเยอะ ดิฉันจึงคิดว่าควรเผื่อเวลาในการเที่ยวไว้หลายชั่วโมงหน่อย และที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปูซานด้วยนะคะ ใครจะมาอย่าลืมเช็คสภาพอากาศกับเวลาเดินรถให้ดีก่อนด้วยละกันนะคะ

       สวนริมทะเล แทจองแด(Taejongdae)เป็นสวนสาธารณะริมทะเลขนาดใหญ่บนเกาะยงโด(Yeongdo)และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองปูซาน มีจุดน่าสนใจให้เที่ยวหลายอย่าง โดยเฉพาะหน้าผาหิน และชายหาดหิน
       สวนแทจองแดตั้งชื่อตามกษัตรย์ของเกาหลีชื่อ TaeJong Mu-Yeol ที่ชอบเดินทางมาที่นี่เพื่อยิงธนูประมาณปี ค.ศ. 660 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1,100 ไร่ประกอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวอย่างต้นสน และหน้าผาหิน ที่จะสูงสุดมีจุดชมวิวที่ความสูง 250 เมตร โดยจะมีทางเดินรอบเกาะ จึงเป็นที่ออกกำลังกาย เดินเล่น กินลมชมวิว ปิคนิคของชาวเมืองปูซานด้วย

วัดโพโมซา (Boemoesa Temple)


                                   วัดโพโมซา (Boemoesa Temple)

                           

         ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางมาเที่ยวเกาหลีนั้นนะคะ ก็มีหลากหลายกันไป เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีเองก็มีความน่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง อย่าง วัดพอมอซา ที่เมืองปูซาน ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นที่นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเที่ยวเกาหลี ฉะนั้นแล้วหากคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลีอย่าลืมแวะไปกันนะคะ

         Beomeosa Temple นั้นตั้งอยู่บนปลายเขาคึมจองซาน ทางตอนเหนือของเมืองปูซาน นับว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญอีกเเห่งของเมืองปูซานโดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน รวมทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จนเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งที่วัดเเห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการนเดินท่องเที่ยวธรรมชาติบนเขาพอมอซา อีกด้วย จึงไม่น่าเเปลกใจว่าในวันหยุดที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายเยือน. เเต่มาถูกทำลายลงอย่างราบคาบในปี ค.ศ.1572 โดยน้ำมือของกองทัพญี่ปุ่นที่รุกรานเกาหลี ก่อนที่มันจะได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ.1613 เเละยังคงความสวยงามมาจนถึงทุกวันนี้ โดยวัดเเห่งนี้ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับชาวพุทธที่ต้องการปลีกวิเวกมาหาความสงบอีกด้วย ซึ่งก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวเกาหลีเเบบลึกซึ้ง รวมทั้งชาวเกาหลีเองที่ต้องการหนีความวุ่นวายในสังคมปัจจุบัน

  ที่มา:http://www.korea108.com/2015/05/beomeosa-temple.html?m=1

หาดควันกัลลี (Gwangalli Beach)


                             หาดควันกัลลี( Gwangalli Beach)


     

      สำหรับหาดงามๆ ยามค่ำคืน บรรยากาศแนวป่าตอง ภูเก็ต โด่งดังด้วยวิวสะพาน ควันกัลลิ (Gwangalli Bridge) สะพานแขวนยาวๆ ที่มีการเล่นไฟแสงสีตลอดคืนค่ะ

     Gwangalli Beach นั้นเป็นหาดทรายที่มีชื่อเสียงอย่างมากอีกแห่งของเมืองปูซาน โดยมีมีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ขาวสะอาดสวยงาม รวมทั้งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในยามค่ำคืนที่สำคัญของนักท่องเที่ยวประมาณหาดป่าตองบ้านเราอย่างไรอย่างนั้น จึงทำให้มันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาพักผ่อนหย่อนใจกันอย่างมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองปูซานสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเมืองแห่งนี้ สำหรับจุดที่น่าสนใจของ หาดควันกัลลิ ก็คือการที่มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยาวราตรีที่มีความสำคัญอย่างมากของเมืองปูซาน โดยตลอดแนวถนนเลียบหาดก็จะเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ จำนวนมากมายที่ปิดบริการกันยันสว่างเลยทีเดียว โดยมีร้านอาหารมากมายหลายร้าน และหลายระดับ ที่น่าสนใจอย่างมากก็จะเป็นเมนูซีฟูดส์แปลกๆ ส่วนผับและบาร์นั้นเรียกว่าทันสมัยและได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งหากคุณได้มาลองเที่ยวบาร์เกาหลีแล้วอาจจะติดใจก็เป็นได้ โดยเฉพาะหนุ่มๆ นั้นรับรองว่าลืมไม่ลงแน่ๆ

     ส่วนวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนนั้นสำหรับ Gwangalli Beach มีความงดงามอย่างมากด้วยวิวทิวทัศน์ของสะพานควังกัน ที่เป็นสะพานที่มีความยาวมากกว่า 7 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยมันเป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเชื่อมต่อระหว่างส่วนของเมืองปูซานเก่ากับย่านธุรกิจแห่งใหม่ของเมืองปูซาน โดยสะพานนี้เป็นสะพานแขวนแห่งแรกในเกาหลี ซึ่งในยามค่ำคืนจะประดับประดาด้วยแสงไฟที่สวยงามทำให้เป็นอีกจุดชมวิวที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้แล้วหาดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่าง รวมทั้งเทศกาลหนังปูซานกันมีชื่อเสียงอีกด้วย

  ที่มา: http://www.korea108.com/2015/06/gwangalli-beach.html?m=1

สะพานควางอันแดเคียว


                                    สะพานควางอันแดเคียว



        อีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองปูซานั่นก็คือ หาดควางอัลลี เพราะมันมีสะพานควางอันที่สวยงาม เหมือนเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของปูซานเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะความงดงามของของสะพานยามค่ำคืนนั้น รับรู้ได้ถึงความโรแมนติกสุดๆค่ะ


      สะพานควางอันแดเคียว(Busan Gwangandaegyo )เป็นสะพานข้ามทะเลยาว 7.4 กิโลเมตรจากเขต Namcheon-dong ไปที่ย่าน Centum City เป็นสะพานข้ามทะเลที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เมื่ออยู่บนสะพานจะเห็นวิวมุมกว้างที่สวยงาม ได้ทั้งวิวเมืองปูซาน และท้องทะเลของปูซาน ที่มีทั้งเกาะและชายหาดมากมาย

     สะพานกวางอันแดเคียวเองก็เป็นหนึ่งในจุดยอดนิยมที่คนชมมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มีการเปิดไฟที่สะพานอย่างสวยงาม

เมืองปูซาน( Busan )


เมืองปูซาน( Busan ) 




              ในเกาหลีนอกจากโซลแล้วก็ยังมีเมืองปูซานที่มีแหล่งท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าเมืองใดในเกาหลีเพราะด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่น่าเมือปูซานจึงดึงดูดและเป็นที่สนใจแก่นักท่องเที่ยวค่ะ

               ปูซาน ถือเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีและเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเมืองหลวงกรุงโซลปูซาน มีชื่อเสียงการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ ที่ติดอันดับโลกแห่งหนึ่ง ปูซาน เป็นเมืองท่าขนส่งสินค้าต่างๆ เป็นท่าเรือโดยสาร ท่าเรือเฟอร์รี่ที่เดินทางไปญี่ปุ่นได้ และเป็นจุดต่อเรือโดยสารเดินทางไปเกาะเจจู เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งเกาหลีและญี่ปุ่น เมืองท่าแห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงโซล ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 450 กิโลเมตร ติดกับคาบสมุทรเกาหลีและมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้านอาหารทะเล มีตลาดปลา แหล่งขายอาหารทะเลขนาดใหญ่ มีพื้นที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติทั้งเกาะแก่ง หุบเขา ชายหาด บ่อน้ำพุ และสวนสาธารณะ อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 15 องศาเซลเซียส จึงเหมาะแก่การพักผ่อนท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวเมืองปูซาน ที่น่าสนใจมีอยู่มากมายหลายแห่ง ปูซาน เป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์มายาวนาน มีแหล่งโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งหลักฐานทางโบราณคดีในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคหินเก่าสมัยเมื่อ 15,000 ปีก่อน ปูซานได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่แล้ว ยังมีชายหาดมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือน ได้แก่ ชายหาดซองโด (Songdo) เป็นชายหาดที่มีหินลักษณะแปลกประหลาด หาดซองโดมีสะพานแขวนสำหรับเชื่อมไปยังแผ่นดินใหญ่ด้วย ชื่อของชายหาดมาจากคำว่า song แปลว่า ป่าต้นสน และคำว่า do แปลว่า เกาะ ส่วนชายหาดอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น ชายหาด Dadaepo ตั้งอยู่ระหว่าง Eulsudo ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของนกที่อพยพมานับหลายหมื่นตัวกับท่าเรือ Gamcheon ที่หาดแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ในช่วงเดือนเมษายนยังมีเทศกาลว่าวให้ได้ชื่นชมอีกด้วย ขณะที่ชายหาดชายหาด Songjeong ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40,000 ตารางกิโลเมตร เป็นชายหาดที่เงียบสงบและยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก
       นอกจากนี้ ปูซาน ยังมีสวนสาธารณะหลายแห่ง เช่น สวนสาธารณะ Geumgang ตั้งอยู่แนวภูเขาฝั่งตะวันออกของภูเขา Geumjeong ในอุทยาน Geumgang ซึ่งเต็มไปด้วยป่าสน ล้อมรอบด้วยหินและหน้าผา, สวนสาธารณะ Daesin อุทยานที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบตั้งอยู่บริเวณเทือกเขา Gubong ซึ่งเป็นบริเวณป่าหนาทึบมีความอุดมสมบูรณ์มากสวนสาธารณะยองดูซาน อยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง และเป็นสถานที่ตั้งของหอคอปูซาน ในกรุงโซลมี Seoul tower ที่ปูซานก็มีหอคอย Pusan tower หอคอยปูซานตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะยงดูซาน หอคอยพูซาน หรือ พูซานทาวเวอร์ มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 118 เมตรเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพของเมืองได้อย่างทั่วถึง ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองพูซาน ในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นชายฝั่งญี่ปุ่นได้อีกด้วยค่ะ


   ที่มา: http://www.tourtooktee.com/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5-%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5

สกีรีสอร์ทยงเพียง Yongpyong Ski Resort



                                สกี รีสอร์ทยงเพียง ( Yongpyong Ski Resort )


                             


              แน่นอนค่ะว่ามาเกาเหลีทั้งทีต้องได้เล่นหิมะหากใครมาเที่ยวเกาหลีแล้วไม่ได้เล่นสกีหิมะแปลว่าพลาดสุดๆเพราะที่นี่ก็มีความสวยและความตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้สวนสนุกหรือสถานที่ใดในเกาหลีเลยค่ะเพราะที่นี่ก็มีกิจกรรมเเอดเวนเจอร์มากมายใครที่เป็นขาลุยนี้พลาดไม่ได้เลยละค่ะ

           สกี รีสอร์ท ยงเพียง(Yongpyong Ski Resort)ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา Baekdudaegan มีหิมะแต่ละเฉลี่ยสูงถึง 250 เซนติเมตร ทำให้เป็นหนึ่งในจุดเล่นสกียอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเกาหลี นอกจากนี้ตัวรีสอร์ทเองยังกินอาณาบริเวณที่ใหญ่มากกว่าหมื่นไร่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ อาคารที่พักขนาดใหญ่หลายอาคาร, สนามกอล์ฟ 45 หลุม, นั่งเรือสไตล์กอลโดร่าแบบอิตาลี, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น, บ่อน้ำพุร้อน และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่มาได้ทุกฤดูกาล

         สกีรีสอร์ท ยงเพียงมีลานสกีมากถถึง 28 slopes เช่น ลานสกีเรนโบว์ยอดนิยมของที่นี่ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆสำหรับนักสกีอย่างครบครัน มีลิฟท์ 15 ตัว มีเคเบิ้ล คาร์ที่ยาวถึง 3.7 กิโลเมตร ทำให้เป็น resort complex ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังเป็นสถานที่จัดงานแข่งขันระดับโลกหลายงาน เช่น World Cup Ski Competition และ Asian Winter Games โดยอยู่ห่างจากเมืองโซล(Seoul)ด้วยการขับรถเพียง 2 ชั่วโมง หรือจะใช้บริการรถชัตเติลบัสของรีสอร์ทที่จะวิ่งช่วงพีคเท่านั้นก็ได้


ชายหาดแฮอึนแด (Haeundae Beach)


                         ชายหาดแฮอึนแด (Haeundae Beach)




             

              ปล่อยอารมณ์และความกังวลทิ้งไปขณะลอยตัวในท้องทะเลไม่ไกลจากชายหาดที่โด่งดังที่สุดของเกาหลี คนท้องถิ่นและนักท่องเที่่ยวต่างเดินทางมาเยือนและอวดโฉมของตนบนชายหาดแห่งนี้ค่ะ

             ชายหาดแฮอึนแด (Haeundae Beach / 해운대해수욕장) เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเกาหลี คำว่า “แฮอึนแด/ Haeundae” ถูกตั้งชื่อโดยนักปราชย์นามว่า ชอย ชี วอน (Choi Chi-Won) ในราชวงศ์ชิลลา ชายหาดมีความยาว 1.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 58,400 ตารางเมตร และเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม และงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี มักเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)บริเวณชายหาดมีสถานที่จัดไว้เพื่อให้ได้สนุกสนานกับการละเล่นพื้นบ้านของเกาหลี ได้แก่ Neoldduigi (ยืนกระโดดขึ้นลงบนไม้กระดานแผ่นใหญ่ เหมือนไม้กระดก), Korean wrestling (มวยปล้ำเกาหลี), Tuho (ยิงธนู), Tug-of-war (ชักเย่อ) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์วัฒนธรรม และห้องสมุดชายหาดสำหรับเส้นทางการเดินเล่นบริเวณรอบๆ ชายหาด
      ตลาดแฮอึนแด (Haeundae Market) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจากชายหาด แหล่งเลือกลิ้มชิมรสอาหารทะเลสดๆ และอาหารพื้นเมือง อย่างเช่น คิมบับ (Gimbab / 김밥 / ข้าวห่อสาหร่าย) หรือต๊อกโบกี (Tukbokki / 떡볶이 /เค้กข้าวในน้ำซอสเผ็ด) รวมไปถึงผัก, ผลไม้ และอื่นๆ ***ตลาดตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม Sunset Business Hotel Busanเมื่อเดินเล่นเรียบชายหาดไปทางขวามือ (หันหน้าสู่ทะเล) จะพบกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำปูซาน (The Busan Aquarium) ที่จัดแสดงสัตว์น้ำกว่า 35,000 ชนิด อาคารจัดแสดงอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 3 ระดับชั้น, มีอุโมงค์ใต้น้ำ และสวนกลางแจ้ง จากนั้นเดินเรียบชายหาดต่อไปทางขวา มุ่งหน้าสู่โรงแรม The Westin Chosun Busan ระยะทางประมาณ 750 เมตร และเดินไปตามถนนด้านข้างของโรงแรม จะพบกับสี่แยก หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นเส้นทางไปหอประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค (Nurimaru APEC House) ซึ่งจะต้องเดินเท้าต่อไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเกาะ Dongbaekseom อันเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมวิวและเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงาม หอประชุมถูกออกแบบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของเกาหลี ผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ หรือที่สี่แยกนั้น…จะเลือกเดินตรงไปตามทางอีกประมาณ 300 เมตร เพื่อไปยังสะพานกวางอัน (Busan Gwangan Bridge) สะพานข้ามทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี ในยามค่ำคืนจะมีการประดับประดาไฟอย่างสวยงาม เป็นจุดชมวิวของท่าน้ำ ที่มักจะมีมีผู้มานั่งพักผ่อนและตกปลา โดยมีวิวของตึกสูงเรียงรายเปิดไฟหลากหลายสีประกอบกันอย่างลงตัว

   ที่มา: http://www.jointtravel.com/travel-information-gallery/haeundae-beach.html

วัดแฮอินซา ( Haeinsa )


                                                วัดแฮอินซา(Haeinsa)




         สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วนะคะ เกาหลี น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่พวกเขาให้ความสนใจมาท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะเกาหลีนั้นมีอะไรให้น่ามาสัมผัสอย่างมากมายทั้งศิลปวัฒนธรรม อาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้งในเกาหลีชื่อดัง จึงไม่น่าแปลกใจว่าการท่องเที่ยวเกาหลีนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวเกาหลีที่มีความน่าสนใจอย่าง วัดแฮอินซา ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตกันในหมู่ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการมาเที่ยวเกาหลีกันอย่างมาก ประมาณถ้าได้มาเกาหลีแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดมาเยือนที่นี่กันเลยทีเดียวค่ะ

         วัดแฮอินซา เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายานเป็นที่ตั้งของตู้พระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดโดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยชิลลาเมื่อ พ.ศ. 1346 ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าแอจังโดยพระภิกษุ 2 รูปที่เดินทางกลับมาจากจีน วัดแห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2360 และได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2361 วัดแห่งนี้และตู้พระไตรปิฎกได้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2538 วัดแฮอินซาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "ชังกย็องพันจ็อนแห่งวัดแฮอินซา สถานที่เก็บแม่พิมพ์ไม้ของพระไตรปิฎกฉบับเกาหลี" จากองค์การยูเนสโกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 19 เมื่อปี พ.ศ. 2538 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก

วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)



    วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)

                                   


           นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เอามาแนะนำค่ะ เพราะสำหรับใครที่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองแล้วได้มีโอกาสได้ไปที่เมืองเคียงจู แนะนำให้แวะเข้าไปที่วัดพุลกุกซา ที่เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลา ซึ่งเป็นยุคที่พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองมาก และวัดนี้ก็มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วยค่ะ

วัดพุลกุกซา ( Pulguksa) เป็นวัดในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ที่จังหวัดคย็องซังเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ เป็น 1 ในมรดกโลก ของเกาหลีใต้ วัดนี้ถือว่าเป็นผลงานชิ้นสุดยอดในยุคทองของพระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรชิลลา
        ในบันทึกของวัดบันทึกว่าวัดนี้เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ สร้างในปี ค.ศ. 528 (พ.ศ. 1071) ในบันทึกสามก๊กแห่งเกาหลี กล่าวว่าวัดที่เห็นในปัจจุบันสร้างในรัชสมัยพระเจ้าคย็องด็อกแห่งราชอาณาจักรชิลลาในปี ค.ศ. 751 (พ.ศ. 1294) และมาสร้างสำเร็จในปี ค.ศ. 774 ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าฮเยกง พร้อมกับพระราชทานชื่อวัดว่า วัดพุลกุกซา (วัดแห่งดินแดนพระพุทธศาสนา)

   ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B2

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี ( The National Museum of Korea )



พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี ( The National Museum of Korea )





          ถ้าพูดถึงเกาหลีใต้ในยุคสมัยนี้คนก็อาจจะคิดถึงกิมจิ, K-POP, ปัญหากับเกาหลีเหนือ, ซัมซุง หรืออะไรก็แล้วแต่ หลังจากได้ไปเที่ยวที่นี่ก็พบว่ามีอะไรหลายอย่างที่น่าศึกษา และแน่นอนว่าหากต้องการรู้ หรือศึกษาอะไรสักอย่างไม่มีอะไรที่น่าไปนอกจากพิพิธภัณฑ์เลยค่ะ

         พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี ( NATIONAL FOLK MUSEUM OF KOREA ) หรือ พิพิธภัณฑ์คติชนพื้นเมือง เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดให้เข้าชมเมื่อปลายปี ค.ศ.2005 ที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่ในเขตยงซาน ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ใหญ่โตโอ่อา มีความยาวถึง 400เมตร สูง 3 ชั้น รวบรวมผลงานและศิลปวัตถุของชาติไว้กว่า 11,000 ชิ้น แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อเป็นที่แสดงความเป็นมาของวัฒนธรรมเกาหลีตั้งแต่สมัยยุคโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งตั้งอยู่ภายในพระราชวังเคียงบกกุงนักท่องเที่ยวที่ซื้อ บัตรเข้าชมพระราชวังสามารถเข้าชมได้ฟรี ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งเป็นโซน 3 โซนด้วยกัน โซนแรกเป็นห้องโบราณคดี ( Archaeological Gallery ) จัดแสดงวัตถุต่าง ๆ ในยุคโบราณตั้งแต่สมัยอาณาจักรแพ็จเจ จนถึงสมัยชิลล่า เช่น ภาชนะรูปเป็ด มงกุฎทองคำ รวมทั้งภาชนะ เครื่องประดับของใช้ในชีวิตประจำวันสมัยนั้น ห้องประวัติศาสตร์(Historical Gallery) จัดแสดงมรดกด้านภาษาของเกาหลีคือ “อักษรฮันกึล” แม่พิมพ์โลหะคำจารึก แผนที่โบราณ และโบราณวัตถุที่ถูก ขุดค้นพบในที่ต่าง ๆ ทั่วเกาหลี สำหรับตรงห้องโถงทางเดินทางโซนที่ 1 จะมีแบบจำลองเจดีย์ 10 ชั้นแห่งวัดเกียงชอนชา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติลำดับที่ 86 ตั้งอยู่เท่าขนาดของจริงที่สูง 13.5 เมตร ของจริงตั้งอยู่ที่วัดในเมืองแกพัง จังหวัดเคียงจิ สร้างขึ้นในสมัยโคเรียว เคยถูกลักลอบออกนอกประเทศครั้งหนึ่งโดยชาวญี่ปุ่น จนสามารถตามคืนมาได้ นอกจากนี้ยังมีผลงานการแกะสลักหินตั้งจำลองไว้ให้ชมตลอดสองข้างทางเดินอีกด้วย สำหรับโซนที่ ห้องวิจิตรศิลป์แกลลอรี่ (Fine Art Gallery) จัดแสดงให้เห็นถึงความงดงามของศิลปะพื้นบ้านของเกาหลี ทั้งการเขียน การวาด ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา มีงานศิลปะพวกเครื่องปั่นดินเผา กระเบื้องเคลือบ โซนที่ ห้องวิจิตรศิลป์แกลลอรี่ เป็นห้องที่รวบรวมผลงานศิลปะของเกาหลี อาทิ พระพุทธรูป ศิลปวัตถุที่ทำจากโลหะมากกว่า 630 ชิ้น และห้องศิลปะจากเอเชีย(Asian Arts ; Gallery); รวบรวมศิลปวัตถุโบราณจากจีน ญี่ปุ่น และแหล่งอารยธรรมจากเอเชียกว่า 970 ชิ้น เช่น ตุ๊กตาดินที่ขุดพบในประเทศจีนเครื่องเคลือบจากประเทศต่าง ๆเป็นต้น นอกจากส่วนจัดแสดงต่าง ๆ ที่กล่าวแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์เด็กแยกส่วนออกมา เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสจับต้องผลงานศิลปะได้จริง ๆอีกด้วย( มีบริการนำชมพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษในวันอังคาร - ศุกร์ เวลา 10.00 น. 13.00 น. และ 15.00 น. )

   ที่มา: http://www.meetawee.com/home/introduce-korea/641-korean-national-museam-.html
        

สวนสาธารณะทะเลสาบอิลซัน( Ilsan Lake Park )


สวนสาธารณะทะเลสาบอิลซัน( Ilsan Lake Park )




           ค่ะสำหรับสวนรอบทะเลสาบอิลซัน( Ilsan Lake Park ) เป็นสวนสาธารณะที่คนสร้างขึ้นขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ทำให้มีกิจกรรมให้ทำและชมมากมายภายในสวนแห่งนี้ เช่น จตุรัสริมแม่น้ำ เกาะจำลอง ลู่วิ่งและเลนส์จักรยานยาว 5 กิโลเมตร สนามเด็กเล่น น้ำพุดนตรี สวนดอกไม้ และป่าทึบที่มีต้นไม้กว่า 2 แสนต้น รวมทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานแสดงดอกไม้นานาชาติด้วยค่ะ

          สวนสาธารณะริมทะเลสาบอิลซันเป็นสวนสาธารณะริมทะเลสาบที่สาบเทียมที่มีขนาดใหญ่ที่สะในภูมิภาคตะวันออก ซึ่งมีเนื้อที่รวมกว่า 991,740 ตารางเมตร ที่นี่มีทะเลสาบขนาดใหญ่ถึง 297,522 ตารางเมตร ซึ่งมีระบบการจัดการน้ำที่ดีทำให้มีน้ำที่ใสสะอาด สวนสาธารณะริมทะเลสาบอิลซันเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนในฐานะของสถานที่พักผ่อนใจกลางเมือง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น ทางจักรยาน(ที่มีความยาวกว่า 4.7 กิโลเมตร) ศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ พื้นที่พักผ่อน น้ำพุดนตรี ลานกิจกรรมริมน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้สวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะของสถานที่จัดงานเทศกาลดอกไม้นานาชาติโคยางอีกด้วยค่ะ

   ที่มา: http://th.aakcast.com/bbs/board.php?bo_table=tour&wr_id=35&page=32

น้ำตกเบอยอง ( Biryong Falls )


น้ำตกเบอยอง ( Biryong Falls )




               น้ำที่ตกลงมาจากหุบเขา Biryong Fall อันดังและมีลักษณะคล้ายกับมังกรบินขึ้นสู่ท้องฟ้าซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชื่อ Biryong (flying dragon) Falls เป็นน้ำตกที่มีผู้คนให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งเซจูเนืองจากน้ำตกแห่งนี้มีบรรยากาศและท้องท้องฟ้าที่งดงามค่ะ

               น้ำตกเบอยอง( Biryong Fall )เป็นน้ำตกสูงใหญ่สวยงามที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน(Seoraksan) มีลักษณะที่ดูเหมือนมังกรกำลังบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ได้ชื่อว่า เบอยอง(Biryong)ที่แปลว่ามังกรบิน ต้องเดินเท้าในการเข้าชมน้ำตกเท่านั้น ผ่านทางเดินกว้างขวาง และป่าไผ่ทำให้เป็นการเดินป่าง่ายๆและร่มรื่น ซึ่งระหว่างทางจะข้ามสะพานเบอยองเคียว(Biryonggyo) และน้ำตกยุกแดม(Yukdam)ที่เป็นน้ำตก 6 ชั้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะถึงน้ำตกเบอยอง ที่ไหนผ่านช่องหินและตกจากหน้าผาลงสู่เบื้องล่างเสียงดังได้ยินแต่ไกล

    ที่มา: https://www.chilloutkorea.com/biryong-falls/

น้ำตกชอนเจยอน (Cheonjeyeon Falls)


           น้ำตกชอนเจยอน (Cheonjeyeon Falls)






         น้ำตกซอนเจยอนนั้นนะคะ เป็นน้ำตกสามชั้นแห่งนี้เป็นที่มาของตำนานพื้นเมือง นอกจากนี้ ผืนป่าโดยรอบยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและพืชหายากนานาพันธุ์และมีบรรยากาศและธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดในเซจูเลยก็ได้ค่ะ

         น้ำตกชอนเจยอนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในเขตซอกวีโพ โดยมีลักษณะเป็นน้ำตกสามชั้นอันน่าทึ่งที่มีน้ำไหลมาจากถ้ำที่อยู่สูงเข้าไปในหน้าผาและไหลออกสู่ทะเล ทางเดินเท้าผ่านผืนป่านำคุณไปสู่จุดชมวิวมากมาย ซึ่งช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามในทุกมุมของน้ำตกที่ชั้นต่างๆคุณจะเห็นสายน้ำไหลมาจากเพดานของถ้ำที่จุดสูงสุดก่อนที่จะไหลตกลงมาที่น้ำตกชั้นแรกเป็นระยะ 72 ฟุต (21 เมตร) แล้วไปรวมกันที่ ‘สระแห่งทวยเทพ’ ผู้คนตั้งชื่อให้สระน้ำเช่นนี้ก็เพราะมีตำนานเล่าว่านางไม้ทั้งเจ็ดจะลงมาเล่นน้ำกันในตอนกลางคืนที่นี่ ผู้คนเคยลงเล่นน้ำและดื่มกินน้ำในสระนี้เป็นเวลาหลายปี เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าน้ำมีคุณสมบัติในการรักษาอาการต่างๆ แต่ตอนนี้ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าชมลงเล่นน้ำหรือดื่มกินน้ำในสระเหมือนเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว หากคุณอยากลงเล่นน้ำในสระแห่งนี้สักครั้งในชีวิต ให้มาเที่ยวที่นี่ในระหว่างเทศกาลประจำปีในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งสระแห่งนี้จะเปิดให้ลงเล่นน้ำในเทศกาลนางไม้ทั้งเจ็ดเพียงวันเดียวเท่านั้น
      สายน้ำจะไหลจากสระแห่งทวยเทพต่อไปยังจุดตกถัดไปที่ตระการตาที่สุด โดยจะไหลเป็นระยะ 98 ฟุต (30 เมตร) ลงแม่น้ำก่อนไหลออกไปสู่มหาสมุทรผู้ที่สนใจพืชสายพันธุ์ต่างๆ สามารถกวาดตามองหาต้นกกและเฟิร์นหายากที่ขึ้นตามรอยแยกระหว่างหินใกล้แม่น้ำ หวายทะนอยและต้นกก Solipnan คือตัวอย่างของพืชที่ชื่นชอบความชื้นใกล้แหล่งน้ำ
      จากนั้น เดินขึ้นไปยังหุบเขาด้านบนเพื่อเดินทางต่อไปยังสะพานซอนอิมเกียว ซึ่งนักท่องเที่ยวใช้เป็นทางผ่านไปยังย่านที่พักของนักท่องเที่ยวจุงมุน มีการแกะสลักลวดลายเป็นรูปนางไม้ทั้งเจ็ดตามตำนานที่ด้านข้างของสะพาน นอกจากนี้ คุณยังสามารถเที่ยวชมหอแปดเหลี่ยมที่มีชื่อว่าหอชอนเจรู รูปวาดที่ด้านข้างของหอบอกเล่าตำนานของนางไม้ทั้งเจ็ด หากคุณขับรถ น้ำตกชอนเจยอนจะอยู่ห่างจากเมืองเชจูไปทางตอนใต้ประมาณ 40 นาที หากต้องการเข้าชม ให้ซื้อตั๋วเข้าชมจากสวนพฤกษศาสตร์ยอมิจิและเดินตามทางเดินผ่านผืนป่า ภาพธรรมชาติที่น้ำตกจะสวยที่สุดหลังจากฝนตก คุณคงไม่อยากพลาดโอกาสพิเศษเช่นนี้ น้ำตกเปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวันตลอดทั้งปี


    ที่มา: https://www.expedia.co.th/Cheonjiyeon-Waterfall-Seogwipo-City.d6119650.Place-To-Visit

หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ ( Seongeup Folk Village )

    หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ ( Seongeup Folk Village )




      
        หมู่บ้านซองอึบนั้นเป็นหมู่บ้านโบราณของเกาหลีนอกจากจะมีบ้านในสมัยโบราณชองชาวเกาหลีแล้วนะคะยังสื่อถึงวัฒนะธรรมประเพณีและวิถีฃีวิตของชาวเกาหลีอีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังโดยรอบหมู่บ้นยังมีธรรมชาติที่สวยงามและบรรยากาศดีมากเลยทีเดียวละค่ะ

      หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ ( Seongeup Folk Village )เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณเล็กๆเชิงเขาฮัลลาซาน อยู่อาศัยมากันเป็นเวลายาวนานและปัจจุบันรุ่นลูกหลานก็ยังคงอาศัยอยู่ที่นี่ ภายในหมู่บ้านนั้นมีทั้งบ้านพักอาศัย, โรงเรียน, ศาลเจ้า, ศาลาว่าการ, ซากอาคารโบราณ และอณุสรณ์หิน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศย้อนยุคโบราณ ชิมอาหารท้องถิ่น และชมดนตรีพื้นเมือง นอกจากนี้บริเวณใจกลางหมู่บ้านยังมีต้นไม้อายุหลายร้อยปีขึ้นอยู่ คือต้นเซลโคว่า zelkova ซึ่งเป็นต้นไม้โบราณเกาหลี เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านที่ชาวบ้านให้ความสำคัญ


ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/seongeup-folk-village/

น้ำตกจองบัง (Jeongbang WaterFall)


                          น้ำตกจองบัง (Jeongbang WaterFall)




          น้ำตกจองบังนั้นนะคะ เป็นน้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่ตกลงสู่ทะเล มีความสูงประมาณ 23 เมตร อยู่ทางทิศใต้ของเกาะเชจู และเป็นหนึ่งในสามของน้ำตกที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเกาะเชจู เช่นเดียวกับน้ำตกชองจิยอนและน้ำตกชอนเจยอน ซึ้งน้ำตกจองบังแห่งนี้ก็มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกอื่นที่อยู่ในบวิเวณเกาะเซจูเลยค่ะ

         น้ำตก Jeongbang Falls เป็นหนึ่งในสามน้ำตกชั้นนำของ Jeju-do และเป็นน้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่ตกลงสู่ทะเลโดยตรง ถัดจากน้ำตกเป็นคำจารึก "Seobulgwacha" หมายถึง Seobul ที่ผ่านสถานที่แห่งนี้ Seobul เป็นคนรับใช้ของจักรพรรดิราชวงศ์ฉินจีน (BC 259 ~ 210) ซึ่งได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิเพื่อหาสารที่จะทำให้เขาเป็นอมตะ Seogwipo ยังกล่าวว่าได้รับชื่อจากเรื่องนี้ซึ่งหมายถึง "Seobul Headed Back West" บนหน้าผาสูงเหนือทะเลเป็นต้นไม้ที่เชอุ่เก่าแก่พรวดพราดออกมาราวกับว่าพร้อมที่จะตกสู่มหาสมุทร ประมาณ 300 เมตรไปทางทิศตะวันออกคือน้ำตกอื่น Sojeongbang Waterfall เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน มีหอคอยอยู่ที่ด้านบนของหน้าผาซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ค่ะ


ที่มา:http://teawsanook.com/place_info_detail.php?piid=180

ตลาดนัมแดมุน ( Namdaemun Market )


ตลาดนัมแดมุน ( Namdaemun Market )



          ค่ะสำหรับ ตรงกลางของทางเดินภายในตลาดนัมแดมุนนั้นนะคะจะมีขนมและอาหารอยู่มากมายตลอดทาง เป็นสไตล์ที่ชาวเกาหลีนิยมมาทาน คล้ายกับร้านรถเข็นข้างทางแบบบ้านเรา จึงอาจจะเจออาหารเกาหลีแบบแปลกอยู่ด้วย ใครเจอร้านไหนคนเยอะก็ลองชิมกันดูเลยค่ะ
         ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market) เปิดในปี 1964 เป็นตลาดดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดจำหน่ายทั้งแบบขายส่งขายปลีก สินค้าส่วนใหญ่ผลิตจากเจ้าของร้านโดยตรง เช่น เสื้อผ้า หมวก อุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องเขิน แก้วน้ำ ของเล่น อุปกรณ์ตกปลา อุปกรณ์ปีนเขา อุปกรณ์เล่นสกี เครื่องเขียน เครื่องประดับ ของที่ระลึก พรม ดอกไม้ อาหาร โสม สินค้านำเข้าและอื่นๆอีกมากมาย ตลาดแห่งนี้คือแหล่งวัตถุดิบชั้นยอดที่เปิดให้บริการยันมืดค่ำเที่ยงคืนเลยทีเดียว ถ้าหากเราเดินทางมาเองก็มาด้วย MRT สายสีฟ้าแล้วมาลงที่สถานนี Hoehyeon ประตูทางออกที่ 5 ก็มาถึงได้ง่ายๆแล้ว ตัวตลาดนั้นถ้าหากว่าเรามาทางประตูเมืองด้านทิศใต้ เราจะมาตลาดนัมแดมุนได้ง่ายที่สุด ให้เรามาทางประตูนัมแดมันหรือซุงเนมุน ก็จะมาถึงแล้ว จัดว่านี่เป็นตลาดขายส่งสินค้าที่ใหญ่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ แล้วยังเป็นแหล่งส่งออกและผลิตสินค้าในประเทศเองอีกด้วย ที่แห่งนี้มีสินค้าหลายประเภทเช่นกัน ไล่ตั้งแต่สินค้าเกษตรที่เหล่าชาวไร่ชาวสวนทั้งหลายมาซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ทำการเกษตรไปใช้ได้ และถ้าหากใครต้องการมาหาซื้อเสื้อผ้าสวยๆก็มาที่นี่ได้เช่นกัน
        สำหรับอาหารการกินนั้น ตรงกลางของทางเดินภายในตลาดนัมแดมุนจะมีขนมและอาหารอยู่มากมายตลอดทาง เป็นสไตล์ที่ชาวเกาหลีนิยมมาทาน คล้ายกับร้านรถเข็นข้างทางแบบบ้านเรา จึงอาจจะเจออาหารเกาหลีแบบแปลกอยู่ด้วย ใครเจอร้านไหนคนเยอะก็ลองชิมกันดู หรือจะเป็นในเรื่องของขนมของฝากต่างๆ ก็อร่อยและราคาไม่แพง อย่างเช่นสาหร่ายนี่ เป็นสินค้าขายดีอันดับต้นๆของตลาดนัมแดมุนนี่เลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้ยังมีแหล่งขายกระเป๋า รองเท้าและของแบรนด์เนมต่างๆไว้รองรับลูกค้าอยู่ด้วยเช่นกัน อยากซื้ออะไรไปฝากใครให้มาที่นี่เท่านั้นรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ





ที่มา:https://www.chilloutkorea.com/namdaemun-market/

อินซาดง Antique Street



                                  อินซาดง( Antique Street )



         ค่ะสำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวไทยเรา นั่นคือ อินซาดงค่ะ เป็นย่านรวมงานศิลปะและสินค้าพื้นเมืองของคนเกาหลีใต้ ในวันเสาร์อาทิตย์ที่นี่จะถูกปิดเป็นถนนคนเดิน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมาเดินเล่น ถ่ายรูปภาพ เลือกซื้อของที่ระลึก ทานอาหารท้องถิ่น หรืออาจจะนั่งจิบกาแฟ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหอศิลป์และแกลอรี่ของบรรดาศิลปินทั้งหลายมาแสดงโชว์ผลงานตัวเองให้เราได้เลือกซื้อเลือกชมกันค่ะ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็น หน้ากากอันดง ภาพวาด โปสการ์ด ไม้แกะสลัก และของกิ๊ปชอปต่างๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีและชมงานศิลปะค่ะ
         ย่านอินซาดง (insadong) หากอยากสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีแบบเกาหลีในใจกลางเมือง เชิญเยี่ยมชมอินซาดง ที่ซึ่งมีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลี นับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพบกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ แถบนี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผางานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่า มีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ห้องแสดงงานศิลปะในช่วงราว ๆ ทศวรรษที่ 70 ในอินซาดง ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เมื่อครั้งที่พระราชินีอลิซาเบธที่ 2 เสด็จเยือนอินซาดงในปี 1999 นั้น ท่านได้ตรัสชมเชยงานศิลปะโบราณที่ท่านได้ทอดพระเนตรอย่างมากมาย ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ อินซาดงจะเป็นเขตปลอดยวดยานพาหนะ (วันเสาร์ เวลา 14.00 น. - 22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 10.00 น. - 22.00 น.) และมีตลาดนัดขายของเก่า เครื่องประดับ และงานศิลปะต่าง ๆ ซึ่งสินค้าในตลาดนัดไม่ได้มีเฉพาะสินค้าเกาหลีเท่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถพบผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกมุมโลกได้ที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ



  ที่มา: http://www.meetawee.com/home/introduce-korea/650-insadong.html